- เมนูส้มตำ มีหลากหลายประเภท เช่น ตำไทย ตำปูม้า ตำไข่เค็ม และตำแตง
- ควรเลือกทาน เมนูส้มตำ จากแหล่งที่มีความสะอาด และหลีกเลี่ยงการใส่น้ำตาลหรือน้ำปลาในปริมาณมาก
- สามารถปรับสูตรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เช่น ลดกุ้งแห้ง ใส่ผักเพิ่ม หรือเลือกเมนูสุขภาพอย่าง ส้มตำเห็ด หรือ ส้มตำวุ้นเส้น
ถ้าพูดถึงอาหารไทยที่มีความแซ่บและกลิ่นอายอีสานอย่างโดดเด่น ชื่อของ ส้มตำ ต้องเป็นหนึ่งในเมนูอันดับต้น ๆ ที่คนไทยและชาวต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี ส้มตำ ถือเป็นอาหารประจำถิ่นของภาคอีสานที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ และยังสามารถพลิกแพลงดัดแปลงได้หลากหลายเมนูเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในแต่ละภูมิภาค
ปัจจุบัน เมนูส้มตำ ไม่ได้มีแค่ ส้มตำไทย หรือ ส้มตำปูปลาร้า เท่านั้น แต่ยังแตกแขนงออกไปอีกมากมาย เช่น ส้มตำทะเล ส้มตำผลไม้ ส้มตำข้าวโพด หรือแม้แต่ส้มตำไข่เค็ม ซึ่งแต่ละเมนูล้วนมีเอกลักษณ์ รสชาติ และวัตถุดิบที่ต่างกัน นอกจากนี้ ส้มตำ ยังสามารถรับประทานคู่กับอาหารจานหลักอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น ข้าวเหนียว ไก่ย่าง หมูปิ้ง หรือแคบหมู
บทความนี้ได้รวบรวม 10 เมนูส้มตำ ยอดนิยมที่ทุกคนไม่ควรพลาด พร้อมแนะนำเคล็ดลับในการทำ ส้มตำ ให้อร่อย รสชาติจัดจ้านแบบต้นตำรับ เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปปรุงเองที่บ้านได้ง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือสายตำมืออาชีพ รับรองว่าถูกใจคอส้มตำแน่นอน
1. ส้มตำไทย
ส้มตำไทย เป็นอาหารไทยยอดนิยมที่คนทั่วโลกย่อมรู้จัก จุดเด่นอยู่ที่ รสชาติเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด ครบรส และวัตถุดิบหลักคือ มะละกอดิบ ที่ถูกขูดเป็นเส้นกรอบ ผสมกับ ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ, กุ้งแห้ง, และ ถั่วลิสงคั่ว ตามสูตรดั้งเดิม
วิธีทำ ส้มตำไทย เริ่มจากตำ พริกขี้หนู และ กระเทียม พอหยาบ ใส่ ถั่วฝักยาว และถั่วลิสงโขลกเบา ๆ ตามด้วย กุ้งแห้ง ปรุงรสด้วย น้ำปลา, น้ำมะนาว, และ น้ำตาลปี๊บ ผสมให้เข้ากันก่อนจะเติม เส้นมะละกอ แล้วเคล้าให้รสชาติซึมทั่ว เสิร์ฟพร้อม ผักสด เช่น กะหล่ำปลีหรือผักบุ้ง
เทคนิคสำคัญสำหรับ ส้มตำไทยกรอบนาน คือ การเลือก มะละกอสดใหม่, ขูดเส้นหยาบ และแช่ในน้ำเย็นผสมน้ำมะนาวก่อนใช้ นอกจากนี้การเลือก กุ้งแห้งคุณภาพ ควรเป็นสีส้มธรรมชาติและเลือก ถั่วลิสง ที่คั่วสด เพื่อรสชาติและความหอมที่ดีที่สุด
ในแง่ประโยชน์ทางโภชนาการ ส้มตำไทย อุดมไปด้วย วิตามินซี จากมะละกอและมะเขือเทศ เสริมด้วยโปรตีนจากกุ้งแห้ง และไขมันดีจากถั่วลิสง ซึ่งทำให้เป็นเมนูสุขภาพควบคุมน้ำหนักได้ดี
ส้มตำไทย ยังมีเวอร์ชันปรับแต่งหลากหลาย เช่น ส้มตำไทยไข่เค็ม, ส้มตำหลอด, หรือแม้กระทั่งการใส่ผลไม้ เช่น แตงโม และมะม่วง เพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติใหม่ ๆ
2. ส้มตำปูปลาร้า
ส้มตำปูปลาร้า หนึ่งในเมนูอาหารอีสานสุดแซ่บที่ครองใจคนไทยทั้งประเทศ และยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสรสชาติความจัดจ้านแบบต้นตำรับของภาคอีสานอย่างแท้จริง เมนูนี้มีวัตถุดิบหลักคือ มะละกอดิบ, พริกสด, มะนาว, น้ำปลาร้าหมัก, และที่ขาดไม่ได้คือ ปูเค็ม ซึ่งช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและกลิ่นหอมเฉพาะตัวให้กับเมนู ส้มตำปูปลาร้า
ด้วยความโดดเด่นของรสชาติทั้งเผ็ด เค็ม เปรี้ยว และกลิ่นปลาร้าหอม ๆ ทำให้ ส้มตำปูปลาร้า กลายเป็นเมนูยอดฮิตตามร้านอาหารอีสาน, ร้านอาหารริมทาง, และแม้แต่ใน ร้านอาหารไทยชื่อดังในกรุงเทพฯ หรือ ต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบ อเมริกา, ญี่ปุ่น, และ เกาหลีใต้ ที่มีร้านอาหารไทยนำเมนูนี้ไปเสิร์ฟจนได้รับเสียงตอบรับอย่างดี
นอกจากความอร่อยแล้ว ส้มตำปูปลาร้า ยังถือเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ เพราะมีแคลอรีต่ำ อุดมไปด้วยเส้นใยจากมะละกอ และยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักหรือมองหาเมนูเพื่อสุขภาพที่ยังคงรสชาติจัดจ้าน
3. ส้มตำป่า
“ส้มตำป่า” ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเมนูของ อาหารอีสาน ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านรสชาติจัดจ้านและวัตถุดิบแบบจัดเต็ม เรื่องราวของ ส้มตำป่า มีจุดเริ่มต้นจากภาคอีสาน ซึ่งใช้วัตถุดิบที่หาได้ตามครัวหรือในสวนของชาวบ้าน ผสมผสานกันจนเกิดเป็นส้มตำที่ “ใส่อะไรก็ได้” อย่างแท้จริง
องค์ประกอบหลักของ ส้มตำป่า ประกอบด้วย มะละกอดิบ เส้นกรอบ, พริกขี้หนู, กระเทียม, น้ำปลาร้า, น้ำมะนาว และ น้ำตาลปี๊บ ส่วนวัตถุดิบเสริมอาจเป็น หน่อไม้ต้ม, หอยเชอร์รี่, ปูดอง, ขนมจีน, มะเขือเทศ และ เม็ดกระถินการใส่ผักหลากหลาย เช่น ผักกระเฉด และ ถั่วฝักยาว ไม่เพียงเพิ่มรสชาติ แต่ยังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามินซี ไฟเบอร์ และแร่ธาตุ
สูตรยอดนิยมที่หาง่าย ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือร้านริมทาง มีแนวทางการปรุงคือ เริ่มจากตำ พริก-กระเทียม ให้ละเอียด ใส่ น้ำปลาร้า+น้ำมะนาว+น้ำตาลปี๊บ จากนั้นใส่ มะละกอ + วัตถุดิบเสริม รวมทั้งขนมจีน เสิร์ฟพร้อมเม็ดกระถินเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัส
วิธีทำง่ายเพียง 15-20 นาที รสชาติได้ทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน และนัวอย่างลงตัว เหมาะทั้งเป็นกับแกล้มและมื้อหลัก พร้อมทานคู่กับ ข้าวเหนียว หรือ ไก่ย่าง ยิ่งเพิ่มความครบสูตรของ อาหารอีสาน
เคล็ดลับความอร่อยของส้มตำป่าคือการใช้ วัตถุดิบสดใหม่ ทั้งมะละกอดิบที่ยังกรอบและผักสดต่างๆ นอกจากนี้กระบวนการตำควรตำพอแตกและคลุกเคล้าเบา ๆ เพื่อไม่ให้วัตถุดิบแหลกละเอียดเกินไป
4. ส้มตำไทยไข่เค็ม
ส้มตำไทยไข่เค็ม เมนูไทยยอดนิยมที่รวมรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดอย่างลงตัว กลายเป็นสุดยอดอาหารจานด่วนที่คนไทยและนักท่องเที่ยวชื่นชอบในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ หรือมื้อกลางวันที่ต้องการความสดชื่น
จุดเด่นของ ส้มตำไทยไข่เค็ม คือการนำวัตถุดิบพื้นบ้านอย่าง มะละกอสุกกรอบ, พริกขี้หนู, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ และกระเทียม มาคลุกเคล้ากับน้ำปรุงรสสูตรพิเศษ ซึ่งผสมผสานด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาวสด และน้ำปลาแท้ เพื่อให้ได้รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม นอกจากนี้ การใส่ ไข่เค็ม ลงไปเพิ่มความมันและรสเค็มนัว ๆ ที่ทำให้เมนูนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากส้มตำทั่วไป
ในยุคที่ความนิยมของอาหารไทยทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ส้มตำไทยไข่เค็ม ถือเป็นเมนูที่ตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและสุขภาพ เพราะใช้วัตถุดิบสดใหม่ ปราศจากสารกันบูด และเหมาะสำหรับผู้ที่รักอาหารรสจัดและต้องการโปรตีนจากไข่เค็ม การเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ ยิ่งทำให้เมนูนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในร้านอาหารทั่วประเทศไทย
สำหรับผู้ที่ต้องการทำ ส้มตำไทยไข่เค็ม ทานเองที่บ้าน แนะนำให้เลือกไข่เค็มคุณภาพดี และเตรียมน้ำส้มตำให้อร่อยตามสูตรดั้งเดิม เพื่อให้ได้รสชาติสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความเผ็ดตามชอบ เพื่อสร้างสรรค์เมนูที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
5. ส้มตำถั่ว
ส้มตำถั่ว คือหนึ่งในเมนูยอดนิยมของคนไทยที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด ครบรส และยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากถั่วที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ ส้มตำถั่ว กลายเป็นอาหารว่างหรือเมนูเรียกน้ำย่อยที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดต่าง ๆ
ส่วนผสมสำคัญของ ส้มตำถั่ว คือ ถั่วฝักยาวสดที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ผสมกับมะละกอสับ แครอท กระเทียม และพริกสด ที่ช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติจัดจ้าน เสริมด้วยน้ำปลาร้า น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของส้มตำที่ให้ความสมดุลทั้งรสเปรี้ยวและหวานแบบลงตัว นอกจากนี้ยังมีการใส่ถั่วลิสงคั่วเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้ ส้มตำถั่ว มีทั้งความอร่อยและความหลากหลายทางรสสัมผัส
นอกจากรสชาติที่ถูกปากแล้ว ส้มตำถั่ว ยังเป็นเมนูที่เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ เพราะถั่วฝักยาวเป็นแหล่งของใยอาหารและวิตามินสูง ช่วยในการย่อยอาหารและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและดูแลสุขภาพ
สำหรับคนที่กำลังมองหาเมนูอาหารไทยแท้ ๆ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ไม่ควรพลาดการลองทำหรือสั่ง ส้มตำถั่ว จากร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่ หรือร้านส้มตำแถวบ้านที่มีรสชาติจัดจ้าน รับรองว่าจะได้สัมผัสกับรสชาติที่สดใหม่และคุณภาพวัตถุดิบที่ดีอย่างแท้จริง
6. ส้มตำข้าวโพด
ในวงการอาหารไทย เมนู ส้มตำข้าวโพด ถือเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและความสดใสของวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างลงตัว ด้วยการผสมผสานระหว่างความเปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ดอย่างกลมกล่อม ส้มตำข้าวโพดจึงเป็นที่รู้จักและชื่นชอบอย่างกว้างขวางในประเทศไทย
จุดเด่นของ ส้มตำข้าวโพด คือการใช้ ข้าวโพดหวานสด เป็นวัตถุดิบหลัก ที่เพิ่มความหวานธรรมชาติและเนื้อสัมผัสกรุบกรอบให้กับส้มตำ โดยไม่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบแปลกใหม่ซับซ้อน การผสมผสานกับเครื่องปรุงอย่าง น้ำมะนาวสด, น้ำปลาแท้, พริกขี้หนูสวน และ ถั่วลิสงคั่ว ทำให้รสชาติกลมกล่อมและโดดเด่นในทุกคำที่ลิ้มลอง
นอกจากความอร่อยแล้ว ส้มตำข้าวโพด ยังเป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ เพราะใช้วัตถุดิบสดใหม่และเต็มไปด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ เช่น วิตามินบี วิตามินซี และไฟเบอร์ ที่ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารและบำรุงผิวพรรณ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่ง่ายต่อการเตรียม เหมาะสำหรับทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงแบบสังสรรค์ หรืออาหารจานด่วนในวันเร่งรีบ
7. ส้มตำผลไม้
ส้มตำผลไม้ ถือเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารไทยที่ผสมผสานความเปรี้ยวหวานจากผลไม้สดเข้ากับรสชาติแซ่บจัดจ้านของส้มตำไทยแบบดั้งเดิม ด้วยการใช้ผลไม้หลากหลายชนิด เช่น มะละกอสุก, มะม่วงเปรี้ยว, สับปะรด, แอปเปิ้ลเขียว, และ มะเขือเทศ มาสับรวมกันในครก เพิ่มความสดชื่นและรสชาติที่หลากหลายให้กับเมนูนี้
การปรุงรสของ ส้มตำผลไม้ ใช้เครื่องปรุงพื้นฐานของส้มตำไทย ได้แก่ พริกขี้หนูสวน, กระเทียม, น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ, และ น้ำมะนาวสด เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและเผ็ดร้อนตามแบบฉบับของอาหารไทย นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ถั่วลิสงคั่ว, กุ้งแห้ง, หรือ ปูเค็ม เพื่อเพิ่มความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการให้กับเมนูนี้
ส้มตำผลไม้ ไม่เพียงแต่เป็นเมนูที่อร่อยและสดชื่น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากผลไม้ที่ใช้เป็นส่วนประกอบมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามินซี, ไฟเบอร์, และ แร่ธาตุโพแทสเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง
8. ส้มตำหมูยอ
ส้มตำหมูยอ คือหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารอีสานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ด้วยรสชาติที่จัดจ้านและความหลากหลายของวัตถุดิบ ทำให้ส้มตำหมูยอเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย
ส้มตำหมูยอ ประกอบด้วย หมูยออุบล ซึ่งเป็นไส้กรอกหมูที่มีรสชาติกลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล เมื่อผสมผสานกับ ส้มตำไทย ที่มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ดอย่างลงตัว ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
วัตถุดิบหลักของ ส้มตำหมูยอ ได้แก่ มะละกอสับ, พริกขี้หนูสวน, กระเทียม, ถั่วลิสงคั่ว, น้ำมะนาวสด, และ น้ำปลาแท้ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมรสชาติและกลิ่นหอมให้กับเมนูนี้
นอกจากนี้ ส้มตำหมูยอ ยังเป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากมีโปรตีนจาก หมูยอ และไฟเบอร์จาก มะละกอ ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารและบำรุงสุขภาพโดยรวม
9. ส้มตำทะเล
ส้มตำทะเล เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในภาคอีสานและกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างความเผ็ดร้อนของ พริกขี้หนูสวน, ความเปรี้ยวจาก มะนาวสด, ความเค็มจาก น้ำปลาแท้, และความหวานจาก น้ำตาลปี๊บ เข้ากับความสดใหม่ของ กุ้งสด, ปลาหมึก, และ หอยแครง ที่นำมาปรุงรสอย่างลงตัว
การเลือกใช้ วัตถุดิบทะเลสด เป็นหัวใจสำคัญของเมนูนี้ เพื่อให้ได้รสชาติที่หวานและกรอบจากเนื้อสัตว์ทะเล ซึ่งช่วยเพิ่มมิติและความหลากหลายให้กับรสชาติของส้มตำ นอกจากนี้ยังมีการเติม ถั่วลิสงคั่ว และ มะเขือเทศ เพื่อเพิ่มความกรุบกรอบและสีสันที่น่ารับประทาน
เมนู ส้มตำทะเล ไม่เพียงแต่มีรสชาติที่จัดจ้านและอร่อย แต่ยังเป็นแหล่งของ โปรตีนคุณภาพสูง และ โอเมก้า-3 ที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและต้องการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
10. ส้มตำแคบหมู
ส้มตำแคบหมู ถือเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารไทยที่ผสมผสานความเผ็ดร้อนของ ส้มตำไทย กับความกรอบอร่อยของ แคบหมู ได้อย่างลงตัว กลายเป็นเมนูที่หลายคนหลงรักและไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนภาคอีสาน โดยเฉพาะในจังหวัด อุบลราชธานี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยของส้มตำแคบหมู
จุดเด่นของ ส้มตำแคบหมู คือการใช้ แคบหมู ซึ่งเป็นหนังหมูทอดกรอบที่มีรสเค็มมันเข้ากันได้ดีกับรสเปรี้ยวของมะละกอสับ และรสเผ็ดของพริกขี้หนูสวน การผสมผสานนี้ทำให้ได้รสชาติที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นในทุกคำที่ลิ้มลอง
นอกจากนี้ ส้มตำแคบหมู ยังเป็นเมนูที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการกินของคนอีสาน ที่เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและการปรุงรสที่จัดจ้าน ทำให้เมนูนี้ไม่เพียงแต่เป็นอาหารอร่อย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอีสานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทิ้งท้าย
เมนูส้มตำ ทั้ง 10 เมนู ที่คัดสรรมาในบทความนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ในอาหารไทย โดยเฉพาะวัฒนธรรมอาหารอีสานที่โดดเด่นเรื่องรสชาติ ความจัดจ้าน และวัตถุดิบท้องถิ่น ส้มตำ ไม่เพียงแต่เป็นอาหารประจำบ้าน แต่ยังกลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ของไทยที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
สำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการทำอาหาร หรืออยากสัมผัสประสบการณ์รสแซ่บแบบไทยแท้ 10 เมนูส้มตำ เหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่ดี ไม่ว่าจะนำไปทำกินเองที่บ้าน หรือใช้เป็นเมนูในร้านอาหาร ก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทยแนวจัดจ้าน
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าความอร่อยของ ส้มตำ อยู่ที่ความสดใหม่ของวัตถุดิบและความพิถีพิถันในการปรุง ใคร ๆ ก็สามารถสร้างสรรค์เมนูส้มตำให้อร่อยได้ไม่ยาก เพียงแค่ลองเปิดใจและสนุกกับการตำส้มตำในสไตล์ของคุณเอง แล้วคุณจะหลงรักส้มตำมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อย่าลืมแบ่งปันเมนู ส้มตำ ที่คุณชื่นชอบในคอมเมนต์ด้านล่าง หรือแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่รักความแซ่บได้ลองทำตาม! คุณมีสูตร ส้มตำ สุดพิเศษหรือร้านโปรดที่อยากแนะนำไหม? มาแลกเปลี่ยนกันเลย!
