พริกแกง คืออะไร? ประวัติความเป็นมาและความสำคัญในอาหารไทย
- พริกแกงคือหัวใจของอาหารไทย เป็นส่วนผสมจากเครื่องเทศและสมุนไพรหลากหลายชนิดที่โขลกรวมกัน ทำหน้าที่กำหนดรสชาติ กลิ่นหอม และสีสันของแกงแต่ละประเภท
- มีต้นกำเนิดจากอินเดียแล้วปรับแต่งเป็นเอกลักษณ์ไทย พริกแกงเดินทางมาจากอินเดีย ผ่านครัวราชสำนักกัมพูชาสู่ไทย แล้วได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรสนิยมและวัตถุดิบท้องถิ่น จนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- พริกแกงมีหลายชนิดตามลักษณะอาหาร พริกแกงยอดนิยม ได้แก่ พริกแกงเผ็ด (แดง) เขียวหวาน พะแนง มัสมั่น คั่ว แกงส้ม และแกงเลียง แต่ละชนิดมีส่วนผสมและวิธีใช้ที่แตกต่างกัน เหมาะกับเมนูอาหารที่แตกต่างกัน
- การโขลกและผัดพริกแกงถูกวิธีสำคัญต่อรสชาติ การใช้ครกหินโขลกจะทำให้พริกแกงมีเนื้อสัมผัสละเมียดและหอม การผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกมันจะช่วยดึงกลิ่นหอมและรสชาติออกมาอย่างเต็มที่
เคยสงสัยไหมว่าทำไมอาหารไทยอย่างแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน หรือแกงมัสมั่น ถึงมีรสชาติที่ซับซ้อน หอมกรุ่น และจดจำได้ไม่ยาก? คำตอบอยู่ที่ “พริกแกง” หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “เครื่องแกง” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการประกอบอาหารไทยประเภทแกง เครื่องปรุงชนิดนี้ไม่ได้เป็นแค่พริกธรรมดา แต่เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องเทศและสมุนไพรนานาชนิดที่โขลกรวมกันอย่างประณีต จนกลายเป็นตัวกำหนดรสชาติ กลิ่นหอม และสีสันของอาหารแต่ละจาน
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับ พริกแกง ตั้งแต่ความหมาย ประวัติความเป็นมา ชนิดต่างๆ ที่นิยม รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละเมนู สำหรับใครที่อยากทำความเข้าใจวัฒนธรรมอาหารไทยให้ลึกซึ้งขึ้น หรือต้องการเริ่มต้นหัดโขลกพริกแกงเอง บทความนี้มีคำตอบครบถ้วน
พริกแกง คืออะไร?
พริกแกง หรือ เครื่องแกง คือส่วนผสมการปรุงอาหารชนิดหนึ่งของอาหารไทยประเภทแกง ที่ทำจากเครื่องเทศและสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น พริกสด พริกแห้ง หัวหอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี กะปิ และเครื่องเทศต่างๆ ที่นำมาบดหรือโขลกผสมให้เข้ากัน ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน พริกแกงมีลักษณะเปียกข้น และอาจผสมกะทิหรือน้ำมันบริโภคตามส่วนประกอบของแต่ละชนิด
พริกแกงไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงธรรมดา แต่เป็นตัวกำหนดอัตลักษณ์ของอาหารแต่ละจาน เพราะแม้จะใช้เนื้อสัตว์หรือผักชนิดเดียวกัน แต่เมื่อเปลี่ยนพริกแกงก็จะได้รสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พริกแกงส่งผลต่อกลิ่น รสชาติ และสีสันของแกง โดยพริกแกงช้อนหนึ่งประกอบด้วยวัตถุดิบเป็นสิบชนิดโขลกรวมกัน รสชาติแกงไทยจึงซับซ้อนหาตัวจับได้ยาก
ส่วนประกอบหลักของพริกแกงมักประกอบไปด้วยกลุ่มสมุนไพรสด ได้แก่ สามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย) ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง และกะปิ โดยอัตราส่วนและวัตถุดิบเสริมจะแตกต่างกันไปตามชนิดของพริกแกงแต่ละประเภท

ประวัติความเป็นมาของพริกแกงไทย
รากเหง้าจากอินเดียสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แกงเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากการกินของชาวอินเดีย ที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศ และได้ถูกนำเข้าสู่อาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเส้นทางการค้ากับอินเดียตอนใต้ ผ่านครัวของราชสำนักที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย เมื่อพริกแกงเข้ามาสู่ภูมิภาคนี้ ได้รับการปรับให้เข้ากับรสนิยมท้องถิ่น รวมถึงเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีอยู่ในแต่ละพื้นที่
การเตรียมพริกแกงได้รับมาจากอินเดียแล้วเข้าสู่อาหารราชสำนักของเขมร จากนั้นเข้าสู่ครัวราชสำนักกรุงศรีอยุธยา ที่ซึ่งขมิ้นถูกแทนที่ด้วยกระวานและมะขาม ในอาหารกัมพูชาและไทยมีการเติมตะไคร้และข่าลงในส่วนผสม นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับแต่งพริกแกงให้เป็นเอกลักษณ์ของไทยเรา
การวิวัฒนาการสู่เอกลักษณ์ไทย
พริกแกงไทยมีความเข้มข้นของรสและกลิ่นอยู่ตรงกลางระหว่างเครื่องแกงผงสมุนไพรแบบอินเดียและเครื่องพริกตำของจีนที่มีรสที่โปร่งกว่า พริกแกงมัสมั่นหรือพริกแกงกะหรี่ที่ไทยรับมาจากอินเดีย ก็ถูกปรับลดปริมาณเครื่องเทศและรสจัดจ้านให้อ่อนลง ให้เข้ากับรสนิยมของคนไทยมากขึ้น
ความน่าสนใจที่ทำให้พริกแกงไทยเนื้อเนียนละเอียดอย่างทุกวันนี้ ต้องยกประโยชน์ให้การที่สามารถผลิตครกหินจากอ่างศิลาให้ใช้กันได้อย่างแพร่หลายในทุกครัวเรือน ทำให้สามารถโขลกพริกแกงเนื้อเนียน ไม่ใช่พริกแกงเนื้อหยาบแบบอาหารพื้นถิ่นในอดีต การใช้ครกหินในการโขลกพริกแกงจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พริกแกงไทยมีเนื้อสัมผัสที่ละเมียดละไม และมีกลิ่นหอมที่เด่นชัดขึ้น
พริกแกงไทยถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งผ่านประสบการณ์มายาวนานหลายร้อยปี ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นเสน่ห์ปลายจวักของหญิงไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน แกงไทยหลายชนิดได้รับความนิยมระดับโลก เช่น แกงมัสมั่นที่เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาหารอร่อยอันดับต้นๆ ของโลกจาก CNN
ชนิดของพริกแกงไทยยอดนิยม
พริกแกงไทยมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีส่วนผสม รสชาติ และวิธีการใช้ที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่ามีพริกแกงอะไรบ้างที่เป็นที่นิยมและใช้บ่อย
1. พริกแกงเผ็ด (พริกแกงแดง)
พริกแกงเผ็ดหรือที่เรียกว่าพริกแกงแดง ประกอบด้วยพริกแห้งเม็ดใหญ่ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี หอม กระเทียม กะปิ และเครื่องเทศ ได้แก่ ลูกผักชี ยี่หร่า เมื่อนำมาแกงใส่กะทิจะเรียกว่า “แกงเผ็ด” ซึ่งมีเอกลักษณ์คือน้ำแกงเป็นสีแดง แตกมันแต่น้ำมันไม่แยกตัวเป็นชั้น รสกลมกล่อม เผ็ดน้อยกว่าแกงเขียวหวาน เนื่องจากใช้พริกแห้ง
พริกแกงเผ็ดนิยมนำไปทำเมนูต่างๆ เช่น แกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงเผ็ดหมู แกงเผ็ดปลา และมักกินคู่กับของเค็ม เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม
2. พริกแกงเขียวหวาน
พริกแกงเขียวหวานต้องมีสีเขียวสดทำจากพริกขี้หนูสดสีเขียวและพริกชี้ฟ้าสีเขียว ต้องหอมผิวมะกรูด ใส่เครื่องเทศทั้งยี่หร่าและลูกผักชี โดยจะใส่ลูกผักชีมากกว่ายี่หร่าประมาณ 1 เท่าตัว แกงเขียวหวานมีรสเผ็ดและหวานกลมกล่อม มักปรุงกับเนื้อไก่ เนื้อหมู หรือลูกชิ้นปลา และเสิร์ฟคู่กับขนมจีนหรือข้าวสวยร้อนๆ
แกงเขียวหวานเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความกลมกล่อมของกะทิ ความเผ็ดของพริก และความหอมของสมุนไพรที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
3. พริกแกงพะแนง
พริกแกงพะแนงเหมือนพริกแกงเผ็ดแต่เพิ่มถั่วลิสงคั่วเข้าไปด้วย หรือบางคนอาจใช้พริกแกงเผ็ดแล้วตำถั่วลิสงเพิ่มเข้าไป พริกแกงพะแนงกลิ่นจะหอมลูกผักชี ยี่หร่า น้ำแกงพะแนงข้นขลุกขลิกกว่าแกงเผ็ด เป็นมันเงาจากการผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกมัน
รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดจัด นิยมแกงกับเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว หมู ไก่ และโรยตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด และใบโหระพาเพิ่มกลิ่นหอม
4. พริกแกงมัสมั่น
พริกแกงมัสมั่นประกอบด้วยพริกแห้งเม็ดใหญ่โขลกกับสมุนไพร ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี หอมแดง กระเทียม รวมถึงเครื่องเทศต่างๆ ได้แก่ พริกไทย ลูกผักชี ยี่หร่า กานพลู กระวาน ลูกจันทน์ อบเชย โดยจะคั่วสมุนไพรกับเครื่องเทศก่อนโขลก จนได้กลิ่นหอมจัด
แกงมัสมั่นมีรสชาติหวานมัน เผ็ดน้อย หอมเครื่องเทศ มักปรุงกับเนื้อไก่หรือเนื้อวัว ใส่มันฝรั่งและถั่วลิสงคั่ว เป็นแกงที่มีต้นกำเนิดจากอิทธิพลมุสลิม และกลายเป็นหนึ่งในเมนูแกงไทยที่โด่งดังที่สุดในระดับโลก
5. พริกแกงคั่ว
พริกแกงคั่วเหมือนกับพริกแกงเผ็ดทุกประการ แต่ไม่ใส่เครื่องเทศคือ ลูกผักชี ยี่หร่า พริกไทย หากใส่กุ้งแห้งหรือปลากรอบป่นลงไปโขลกกับพริกแกงด้วย จะเป็นอาหารประเภทแกงคั่วส้ม พริกแกงคั่วนิยมนำไปทำเมนูต่างๆ เช่น แกงหมูเทโพ แกงคั่วสับปะรด แกงคั่วใบชะพลู และฉู่ฉี่
6. พริกแกงส้ม (แกงเหลือง)
พริกแกงส้มมีส่วนผสมน้อย ต้องใส่กระชายเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนแกงเหลืองหรือภาคใต้เรียกแกงส้ม สีเหลืองมาจากการใส่ขมิ้น พริกแกงส้มมักนำไปทำแกงส้มผักรวมมิตร แกงส้มปลา แกงส้มกุ้ง ซึ่งมีรสเปรี้ยวเผ็ด สดชื่น เหมาะสำหรับรับประทานในวันที่อากาศร้อน
7. พริกแกงเลียง
พริกแกงเลียงประกอบด้วย พริกไทย กะปิ รากผักชี เกลือ และหอมแดง แกงเลียงเป็นแกงที่มีส่วนผสมเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มักปรุงกับผักรวมและกุ้งแห้ง มีรสชาติกลมกล่อม เค็มน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติไม่จัด
ความแตกต่างของพริกแกงในแต่ละภูมิภาค
นอกจากพริกแกงหลักที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ในแต่ละภาคของประเทศไทยยังมีการเพิ่มเติมรายละเอียดรสที่แตกต่าง เช่น พริกแกงปักษ์ใต้ใส่ขมิ้นชัน พริกแกงล้านนาบางอย่างใส่มะแขว่น มะข่วง ในภาคตะวันออกที่มีพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นเพิ่มหน่อเร่ว ลูกกระวานขาว หัวไพล ดอกผักชีไร่ และหัวขิงแห้งไป ส่วนภาคตะวันตกใส่พริกพรานป่า หรือมะแขว่นป่าเม็ดโตเปลือกดำที่ให้รสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อนเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น
ความหลากหลายของพริกแกงในแต่ละภูมิภาคนี้สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบท้องถิ่น และความคิดสร้างสรรค์ของคนในแต่ละพื้นที่ที่ปรับใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ให้เกิดรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
เคล็ดลับการเลือกและใช้พริกแกง
การเลือกพริกแกงที่ดีและการใช้อย่างถูกวิธี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อาหารมีรสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน
เลือกพริกแกงคุณภาพดี
สำหรับพริกแกงโขลกสด ควรเลือกที่มีกลิ่นหอมชัดเจน สีสันสด ไม่มีกลิ่นหืนหรือบูด วัตถุดิบที่ใช้ควรสด เช่น พริกที่ไม่เหี่ยว สมุนไพรที่ยังมีน้ำมัน หอมและกระเทียมที่สดใหม่ หากซื้อพริกแกงสำเร็จรูป ควรเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบวันหมดอายุ และส่วนผสมที่ระบุบนฉลาก
การใช้พริกแกงให้ถูกวิธี
การทำแกงที่ดีควรเริ่มจากการผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกมัน เพื่อให้กลิ่นหอมของพริกแกงออกมา จากนั้นจึงใส่เนื้อสัตว์และเครื่องปรุงอื่นๆ ตามลำดับ การผัดพริกแกงให้แตกมันเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้แกงมีรสชาติเข้มข้นและหอมกลิ่นเครื่องเทศชัดเจน
อัตราส่วนของพริกแกงกับกะทิและเนื้อสัตว์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยทั่วไปแกง 1 หม้อขนาดกลาง จะใช้พริกแกงประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ แต่สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ตามความชอบ
การเก็บรักษาพริกแกง
พริกแกงโขลกสดควรเก็บในตู้เย็นและใช้ภายใน 3-5 วัน หากต้องการเก็บนานกว่านั้น สามารถแช่แข็งได้ประมาณ 1-2 เดือน พริกแกงสำเร็จรูปที่ยังไม่เปิดซองสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ แต่หลังเปิดซองแล้วควรเก็บในตู้เย็นและใช้ให้หมดภายใน 1-2 สัปดาห์
ประเภทของแกงไทย
แกงไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ แกงกะทิ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ แกงกะทิที่ใส่พริกแกง เช่น แกงคั่ว แกงเทโพ พะแนง แกงกะหรี่ แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด แกงมัสมั่น และแกงกะทิที่ไม่ใส่พริกแกง เช่น ต้มกะทิสายบัว ต้มข่าไก่ และแกงไม่ใส่กะทิ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ แกงไม่ใส่กะทิที่ใส่พริกแกง เช่น แกงป่า แกงส้ม และแกงไม่ใส่กะทิที่ไม่ใส่พริกแกง เช่น แกงจืด ต้มส้ม ต้มเค็ม
การแบ่งประเภทแกงแบบนี้ช่วยให้เข้าใจถึงความหลากหลายของอาหารไทย และเห็นได้ว่าไม่ใช่แกงทุกชนิดจะต้องใช้พริกแกง แต่แกงที่ใช้พริกแกงมักมีรสชาติที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์มากกว่า
ทิ้งท้าย
พริกแกง เป็นมากกว่าแค่เครื่องปรุงอาหาร แต่เป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารไทยที่สืบทอดมาหลายร้อยปี ตั้งแต่การรับอิทธิพลจากอินเดีย ผ่านการปรับแต่งให้เข้ากับรสนิยมไทย จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก การเข้าใจถึงความแตกต่างของพริกแกงแต่ละชนิด ทั้งในแง่ของส่วนผสม รสชาติ และวิธีการใช้ จะช่วยให้สามารถปรุงอาหารไทยได้อร่อยและถูกต้องตามตำรับมากขึ้น
ไม่ว่าจะเลือกใช้พริกแกงโขลกสดจากตลาด การโขลกเอง หรือพริกแกงสำเร็จรูป สิ่งสำคัญคือการเลือกให้เหมาะกับเมนูที่ต้องการทำ และใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและหอมกรุ่น สำหรับใครที่ต้องการเริ่มต้นหัดโขลกพริกแกงหรือทำแกงเอง ขอให้ลองศึกษาและฝึกฝนไปทีละขั้นตอน เพราะการทำอาหารไทยให้อร่อยนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ที่สั่งสมมา
หากมีโอกาส ลองทดลองโขลกพริกแกงเองดูสักครั้ง จะได้สัมผัสกับกระบวนการที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน และได้สัมผัสกับกลิ่นหอมของสมุนไพรสดๆ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งจะทำให้เข้าใจและชื่นชมความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของพริกแกงไทยได้มากยิ่งขึ้น







![[Review] ร้าน Masuma (มาสูมา) คาเฟ่สไตล์อีสานโมเดิร์น #8 [Review] ร้าน Masuma (มาสูมา) คาเฟ่สไตล์อีสานโมเดิร์น](https://www.aroimak.co/wp-content/uploads/2020/09/masumacafe-390x220.jpg)

