อาหารและเครื่องดื่ม

ผัดซีอิ๊ว คืออะไร? ประวัติ วิธีทำ และเคล็ดลับอร่อย

  • ผัดซีอิ๊ว เป็นอาหารไทย-จีนยอดนิยมที่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดกับซีอิ๊วดำ เนื้อสัตว์ ไข่ และผักคะน้า ให้รสชาติหวานนำและมีกลิ่นหอมกระทะเป็นเอกลักษณ์
  • ประวัติความเป็นมา สืบทอดมาจากชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพมาในไทยช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และถูกดัดแปลงให้เข้ากับรสนิยมคนไทยจนกลายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมระดับโลก
  • เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่การใช้ไฟแรงตลอดเวลา คลุกเส้นกับซีอิ๊วดำก่อนผัด และควบคุมเวลาการผัดให้พอดีเพื่อให้เส้นนุ่มและคะน้ายังคงกรอบ
  • วัตถุดิบหลัก ประกอบด้วยเส้นใหญ่หรือเส้นหมี่ขาว เนื้อหมูหรือไก่ ผักคะน้า ไข่ไก่ และเครื่องปรุงอย่างซีอิ๊วดำ น้ำตาล และน้ำปลา พร้อมสามเกลอเพื่อเพิ่มความหอม

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไม ผัดซีอิ๊ว ถึงเป็นเมนูยอดนิยมที่ขาดไม่ได้ในทุกร้านอาหารตามสั่ง? จานเส้นสีเข้มที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนติดใจจนต้องสั่งซ้ำแล้วซ้ำอีก เมนูนี้ไม่เพียงแค่อร่อยและทำได้ง่าย แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการทำอาหารจีนกับรสชาติแบบไทยๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

หลายคนอาจรู้จักผัดซีอิ๊วเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีหลายคนที่สงสัยว่าจริงๆ แล้วผัดซีอิ๊วมีที่มาอย่างไร ทำไมถึงมีสีเข้มแบบนั้น และจะทำอย่างไรให้ได้รสชาติหอมกลิ่นกระทะแบบร้านดัง บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกมิติของผัดซีอิ๊ว ตั้งแต่ความหมาย ประวัติความเป็นมา ไปจนถึงวิธีทำแบบละเอียดพร้อมเคล็ดลับจากเชฟมืออาชีพ เตรียมพร้อมที่จะค้นพบความลับของเมนูดังที่คนไทยรักมากกว่า 100 ปี

ผัดซีอิ๊ว คืออะไร?

ผัดซีอิ๊ว หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า “ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว” เป็นอาหารไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน โดยเฉพาะจากชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย คำว่า “ผัดซีอิ๊ว” มาจากภาษาจีนกวางตุ้งที่แปลว่า “ผัดกับซอสถั่วเหลือง” ซึ่งหมายถึงการนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาผัดกับซีอิ๊วในกระทะไฟแรง

ลักษณะเด่นของผัดซีอิ๊วคือการใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เป็นหลัก ผัดจนมีสีน้ำตาลเข้มจากซีอิ๊วดำ และมีกลิ่นหอมจากการผัดไฟแรงที่เรียกว่า “กลิ่นกระทะ” ส่วนประกอบพื้นฐานจะมีเนื้อสัตว์ (มักเป็นหมูหรือไก่) ไข่ไก่ และผักคะน้า ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วดำ น้ำตาล และน้ำปลา จนได้รสชาติหวานนำที่เป็นเอกลักษณ์

ปัจจุบัน ผัดซีอิ๊วกลายเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมที่มีขายทั่วไปในประเทศไทย ทั้งในร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว และแม้แต่ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2556 เว็บไซต์ CNNgo.com ได้จัดอันดับให้ผัดซีอิ๊วเป็นอาหารไทยอันดับ 1 ที่นักท่องเที่ยวรับประทานมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงความนิยมระดับโลกของเมนูนี้

เมนูนี้มีความคล้ายคลึงกับ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่จุดแตกต่างที่สำคัญคือการใช้ซีอิ๊วดำหวานและผักคะน้าเป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้รสชาติและสีสันแตกต่างกันอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ผัดซีอิ๊วยังมักจะถูกเสิร์ฟคู่กับราดหน้าในร้านอาหารจีนหลายแห่ง เพราะทั้งสองเมนูใช้วัตถุดิบและเทคนิคการทำที่คล้ายคลึงกัน

ผัดซีอิ๊ว คืออะไร?

ประวัติความเป็นมาของผัดซีอิ๊ว

ประวัติของผัดซีอิ๊วมีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับการอพยพของชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย โดยเฉพาะชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพเข้ามามากในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 กลุ่มชนเหล่านี้นำเทคนิคการทำอาหารจีนมาด้วย รวมถึงวิธีการผัดในกระทะไฟแรงและการใช้ซีอิ๊วเป็นเครื่องปรุงหลัก

เมื่อชาวจีนเริ่มทำอาหารในประเทศไทย พวกเขาได้ปรับเปลี่ยนสูตรดั้งเดิมให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นและรสนิยมของคนไทย เช่น การเพิ่มผักคะน้า ซึ่งเป็นผักที่หาได้ง่ายในไทย และการปรับรสชาติให้มีความหวานมากขึ้นด้วยการใช้น้ำตาลและซีอิ๊วดำหวาน การผสมผสานนี้ทำให้เกิด “ผัดซีอิ๊ว” ในรูปแบบที่เรารู้จักในปัจจุบัน

ในอดีต ผัดซีอิ๊วเป็นอาหารที่นิยมขายตามแผงลอยและตลาดนัด เพราะทำได้รวดเร็ว ราคาไม่แพง และอิ่มท้อง จึงกลายเป็นอาหารยอดนิยมของคนทำงานและนักเรียน ต่อมาเมื่อร้านอาหารตามสั่งเริ่มแพร่หลายในไทย ผัดซีอิ๊วก็กลายเป็นเมนูประจำที่ต้องมีในทุกร้าน คู่ไปกับเมนูอื่นๆ เช่น ผัดกะเพรา ผัดไทย และผัดผักรวม

ความนิยมของผัดซีอิ๊วยังขยายไปสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีชุมชนชาวไทยจำนวนมาก เมนูนี้ปรากฏในร้านอาหารไทยทั่วโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สะท้อนถึงความสำเร็จในการผสมผสานวัฒนธรรมการทำอาหารจีนกับรสชาติไทยอย่างลงตัว

สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ผัดซีอิ๊วจะมีต้นกำเนิดจากจีน แต่รูปแบบที่เห็นในปัจจุบันกลับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทยมากกว่า เพราะการปรับรสชาติและวิธีการทำที่แตกต่างไปจากต้นตำรับ ทำให้ผัดซีอิ๊วกลายเป็นอาหารไทย-จีนที่มีความเป็นไทยอย่างแท้จริง

ส่วนประกอบและวัตถุดิบหลักของผัดซีอิ๊ว

การทำ ผัดซีอิ๊ว ให้อร่อยนั้นเริ่มต้นจากการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยส่วนประกอบหลักมีดังนี้

เส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นหัวใจสำคัญของเมนูนี้ โดยนิยมใช้เส้นใหญ่ (เส้นหอยหรือเส้นเล็ก) และเส้นหมี่ขาว เส้นใหญ่จะให้เนื้อสัมผัสหนึบนุ่มและดูดซับรสชาติได้ดี ส่วนเส้นหมี่ขาวจะให้ความนุ่มลื่นและเคี้ยวสนุกกว่า บางร้านในภาคใต้อาจใช้บะหมี่แทนได้ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่นิยมใช้เส้นเล็กหรือวุ้นเส้นในการทำผัดซีอิ๊ว

เนื้อสัตว์ ที่นิยมใช้มากที่สุดคือหมูและไก่ โดยเฉพาะหมูสันคอหรือหมูสามชั้นที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ บางร้านอาจใช้เนื้อวัวสำหรับลูกค้าที่ต้องการความหรูหรามากขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ก็สามารถทำแบบเจหรือใส่เต้าหู้แทนได้ โดยทั่วไปจะไม่นิยมใส่ปลาหมึกหรือทะเลในผัดซีอิ๊วแบบดั้งเดิม

ผักคะน้า เป็นผักเพียงชนิดเดียวที่ใช้ในผัดซีอิ๊วแบบดั้งเดิม ผักคะน้ามีเนื้อสัมผัสกรอบและรสชาติขมเล็กน้อย ช่วยตัดความเลี่ยนและเพิ่มสีสันให้จาน บางคนอาจใช้ผักคะน้าจีนแทนคะน้าไทยก็ได้ ควรเลือกคะน้าที่ใบสดและก้านไม่แก่จนเกินไป

ไข่ไก่ เป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ โดยมักจะตอกไข่ลงในกระทะขณะผัด ให้ไข่แตกและคลุกเคล้ากับเส้น ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและเพิ่มความหอมให้กับจาน บางร้านอาจผัดไข่แยกก่อนแล้วจึงใส่เส้นตามลงมา

เครื่องปรุงรส ที่สำคัญประกอบด้วย ซีอิ๊วดำ (ให้สีและความหวาน) น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานและช่วยให้เส้นเคลือบสวย) น้ำปลา (ให้ความเค็มและความกลมกล่อม) ซอสหอยนางรม (เพิ่มความหอมและรสอูมามิ) และพริกไทยป่น (เพิ่มความหอมและเผ็ดเล็กน้อย) บางสูตรอาจเติมน้ำมันงาเล็กน้อยเพื่อความหอม

สามเกลอ ซึ่งประกอบด้วยกระเทียม รากผักชี และพริกไทย เป็นเครื่องปรุงพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติให้กับผัดซีอิ๊ว กระเทียมจะผัดจนหอมก่อนใส่เนื้อสัตว์ ทำให้กลิ่นหอมกระจายไปทั่วทั้งจาน

การเลือกวัตถุดิบที่สด สะอาด และมีคุณภาพจะส่งผลต่อรสชาติของผัดซีอิ๊วอย่างมาก เนื้อสัตว์ควรสดไม่เหม็น ผักคะน้าควรกรอบไม่เหี่ยวแห้ง และเส้นก๋วยเตี๋ยวควรนุ่มไม่เหนียวจนเกินไป

วิธีทำผัดซีอิ๊ว

การทำผัดซีอิ๊วที่บ้านให้อร่อยเหมือนร้านนั้นไม่ยากอย่างที่คิด หากรู้เทคนิคและลำดับขั้นตอนที่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือวิธีทำแบบละเอียดพร้อมเคล็ดลับจากเชฟ

ขั้นตอนเตรียมวัตถุดิบ เริ่มจากการล้างเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ประมาณ 200-250 กรัม แล้วคลุกเคล้ากับซีอิ๊วดำ 1-2 ช้อนโต๊ะจนทั่ว พักไว้ให้เส้นดูดซับสีและรสชาติก่อนผัด วิธีนี้จะช่วยให้เส้นมีสีสวยสม่ำเสมอและไม่จับกันเป็นก้อนตอนผัด จากนั้นหั่นหมูหรือไก่เป็นชิ้นบางๆ ประมาณ 100-150 กรัม ล้างผักคะน้าให้สะอาดแล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2-3 นิ้ว แยกก้านและใบออกจากกันเพราะก้านใช้เวลาสุกนานกว่าใบ

ขั้นตอนการผัด ตั้งกระทะหรือกระทะจีนบนไฟแรง ใส่น้ำมันพืชประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ รอจนน้ำมันร้อนจัด จากนั้นใส่กระเทียมสับหรือกระเทียมทุบประมาณ 2-3 กลีบ ผัดจนหอมแต่ยังไม่ไหม้ ใส่เนื้อหมูหรือไก่ลงไปผัดจนสุกประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ปรุงรสเบื้องต้นด้วยซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะและพริกไทยป่นเล็กน้อย

การใส่ไข่และเส้น เมื่อเนื้อสัตว์เริ่มสุกดี ให้ดันเนื้อไปด้านข้างของกระทะ ตอกไข่ไก่ 1-2 ฟองลงตรงกลาง รอประมาณ 5-10 วินาทีให้ไข่ขาวเริ่มเซ็ตตัวเล็กน้อย จากนั้นยีไข่ให้แตกและคลุกเคล้ากับเนื้อ เมื่อไข่เริ่มสุก 70 เปอร์เซ็นต์ ค่อยใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่คลุกซีอิ๊วดำไว้แล้วลงไป ผัดเร็วด้วยไฟแรงให้เส้นและไข่เข้ากันดี ใช้ตะหลิวช่วยกระจายเส้นและยกเส้นขึ้นผัดให้ทั่ว

การปรุงรสและใส่ผัก ปรุงรสต่อด้วยน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ และซีอิ๊วดำอีก 1 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ) ผัดให้เครื่องปรุงกระจายทั่วเส้น จากนั้นใส่ก้านคะน้าลงไปผัดประมาณ 30 วินาที ตามด้วยใบคะน้า ผัดต่ออีกประมาณ 30-45 วินาทีจนคะน้าเริ่มสลดแต่ยังคงกรอบ อย่าผัดคะน้านานเกินไปเพราะจะทำให้คะน้าเหี่ยวและสูญเสียเนื้อสัมผัสที่กรอบ

การตกแต่งและเสิร์ฟ ก่อนตักขึ้นจากกระทะ ให้ชิมรสอีกครั้ง ปรับแต่งตามชอบ หากต้องการให้หวานมากขึ้นให้เติมน้ำตาล หากต้องการให้เค็มกว่านี้ให้เติมน้ำปลาหรือซีอิ๊วดำ บางคนชอบโรยพริกไทยป่นเพิ่มอีกนิดก่อนตักใส่จาน ตักใส่จานเสิร์ฟทันทีขณะร้อน จัดเรียงให้สวยงาม อาจโรยหน้าด้วยต้นหอมซอยหรือพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมพริกน้ำส้ม น้ำปลาพริก หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดตามชอบ

เคล็ดลับพิเศษจากเชฟ สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้ไฟแรงตลอดเวลา เพื่อให้เกิด “กลิ่นกระทะ” หรือ wok hei ที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารจีนผัด อย่ากลัวว่าอาหารจะไหม้ แค่คอยกวนและยกเส้นผัดให้ทั่ว การคลุกเส้นกับซีอิ๊วดำก่อนผัดจะช่วยให้สีสวยและกระจายทั่ว นอกจากนี้ การให้ไข่เซ็ตตัวเล็กน้อยก่อนยีจะทำให้ไข่เป็นชิ้นใหญ่และฟูน่ารับประทาน

เคล็ดลับและเทคนิคทำผัดซีอิ๊วให้อร่อยเหมือนร้านดัง

หลายคนพยายามทำผัดซีอิ๊วที่บ้านแต่กลับไม่ได้รสชาติและกลิ่นเหมือนร้านดัง เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยยกระดับผัดซีอิ๊วให้อร่อยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การเลือกเส้นที่เหมาะสม เส้นใหญ่ที่ดีควรมีความนุ่มพอดี ไม่แข็งจนเกินไปและไม่นุ่มจนเละ เลือกเส้นที่ผลิตใหม่ในวันนั้นหรือไม่เกิน 1 วัน หากเส้นแข็งเกินไปให้แช่น้ำอุ่นสักครู่ก่อนนำมาผัด แต่ต้องระวังอย่าให้เส้นอุ่นจนเกินไปจนกลายเป็นเละ บางคนชอบผัดเส้นให้เกรียมนิดหนึ่งเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ ซึ่งสามารถทำได้โดยการผัดด้วยไฟแรงและอย่าเกลี่ยเส้นบ่อยเกินไป ให้เส้นสัมผัสกับพื้นกระทะร้อนนานพอสมควร

เทคนิคการใช้ไฟ ไฟแรงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผัดซีอิ๊วมีกลิ่นหอมกระทะ ควรใช้เตาแก๊สที่ให้ไฟแรงพอ หากใช้เตาไฟฟ้าควรเปิดที่ระดับสูงสุดและให้กระทะร้อนจัดก่อนใส่วัตถุดิบ อย่ากลัวควันจากกระทะ ควันนั้นคือสัญญาณว่ากระทะร้อนพอที่จะทำผัดซีอิ๊วได้ดี ระหว่างผัดต้องคอยกวนและยกเส้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ไหม้ติดกระทะ และเพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วทุกส่วนของอาหาร

การหมักเนื้อสัตว์ หากต้องการให้เนื้อหมูหรือไก่นุ่มและมีรสชาติดีขึ้น ให้หมักก่อนผัดสักพัก โดยใช้ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา พริกไทยป่น น้ำมันงา และแป้งข้าวโพดเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วพักไว้ประมาณ 15-30 นาที การหมักจะช่วยให้เนื้อสัตว์ซึมรสและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น บางสูตรยังใส่ไข่ขาวลงไปหมักด้วยเพื่อเพิ่มความนุ่ม แต่ต้องระวังอย่าหมักนานเกินไปจนเนื้อเละ

การควบคุมปริมาณซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วดำให้ทั้งสีและความหวาน แต่ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้ผัดซีอิ๊วมีสีดำจัดและหวานเกินไป ควรเริ่มจากปริมาณน้อยแล้วค่อยเติมทีละน้อยจนได้รสชาติที่ต้องการ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบหวานมากสามารถลดปริมาณน้ำตาลลงและเพิ่มน้ำปลาหรือซีอิ๊วขาวแทน บางคนชอบเติมน้ำมันหอยมากขึ้นเพื่อเพิ่มความเข้มข้นและรสอูมามิ การทดลองปรุงรสหลายครั้งจะช่วยให้พบสูตรที่เหมาะกับรสนิยมของตัวเองมากที่สุด

การใช้กระทะที่เหมาะสม กระทะจีน (wok) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการทำผัดซีอิ๊ว เพราะมีพื้นผิวกว้างและลึกพอดี ทำให้ผัดได้สะดวกโดยไม่ต้องกลัวอาหารหกออกนอกกระทะ หากไม่มีกระทะจีนก็สามารถใช้กระทะธรรมดาได้ แต่ควรเลือกกระทะที่มีขนาดใหญ่พอและไม่มีเคลือบที่ลอกง่าย กระทะเหล็กหรือกระทะสแตนเลสมักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากระทะเคลือบ ก่อนใช้ควรให้กระทะร้อนจัดก่อนใส่น้ำมัน และอย่าใส่วัตถุดิบลงไปพร้อมกันมากเกินไป เพราะจะทำให้อุณหภูมิในกระทะลดลงและอาหารไม่สุกสม่ำเสมอ

เคล็ดลับเรื่องผักคะน้า ผักคะน้าควรล้างให้สะอาดและสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำมาผัด เพราะถ้ามีน้ำมากเกินไปจะทำให้เส้นเละและรสชาติจืดลง การใส่ก้านคะน้าก่อนใบคะน้าจะช่วยให้คะน้าสุกพอดีทั้งก้านและใบ อย่าผัดคะน้านานเกินไปเพราะจะทำให้เหี่ยวและสูญเสียสีเขียวสวย บางคนชอบลวกคะน้าก่อนใส่ลงในผัดซีอิ๊วเพื่อลดเวลาการผัดและรักษาสีเขียวสด แต่ต้องระวังอย่าลวกนานเกินไปจนคะน้าสุกมากจนเกินไป

ทิ้งท้าย

ผัดซีอิ๊ว เป็นมากกว่าแค่เมนูอาหารตามสั่งธรรมดา แต่เป็นผลงานที่สะท้อนถึงการผสมผสานวัฒนธรรมการทำอาหารจีนกับรสนิยมคนไทยอย่างลงตัว จากจานเส้นเรียบง่ายที่ชาวจีนแต้จิ๋วนำมาเผยแพร่ในไทยกว่า 100 ปีที่แล้ว กลายเป็นเมนูยอดนิยมที่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างหลงรัก ความลับของความอร่อยอยู่ที่การใช้ไฟแรงจนเกิดกลิ่นกระทะ การเลือกใช้วัตถุดิบที่สด และการควบคุมสมดุลของรสชาติหวานนำที่เป็นเอกลักษณ์

การทำผัดซีอิ๊วที่บ้านให้อร่อยเหมือนร้านดังไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เข้าใจเทคนิคพื้นฐาน ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การใช้ไฟที่เหมาะสม ไปจนถึงการปรุงรสให้ลงตัว ใครก็สามารถสร้างสรรค์จานผัดซีอิ๊วที่มีรสชาติและกลิ่นหอมกระทะแบบมืออาชีพได้ในครัวของตัวเอง ลองนำสูตรและเคล็ดลับที่แนะนำไปปฏิบัติ แล้วปรับแต่งตามความชอบของครอบครัว เพื่อสร้างสูตรผัดซีอิ๊วฉบับของตัวเองที่ทุกคนในบ้านจะต้องติดใจ

อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่รักการทำอาหารได้ลองทำตาม และมาแลกเปลี่ยนเคล็ดลับหรือสูตรเด็ดของตัวเองในคอมเมนต์ด้านล่าง หากทำตามแล้วมีคำถามหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะถามมาได้เลย ขอให้สนุกกับการทำผัดซีอิ๊วและอร่อยกับทุกจานที่ได้ลงมือทำเองนะคะ

กดเพื่ออ่านต่อ

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button