โรตี คืออะไร ประวัติความเป็นมาและวิธีทำโรตีกรอบอร่อย
- โรตี เป็นอาหารประเภทขนมปังแบนที่มีต้นกำเนิดจากเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ มีหลายประเภทตั้งแต่จาปาตีไปจนถึงนาน
- ประวัติโรตี เริ่มต้นในอินเดียตอนใต้เมื่อหลายพันปีก่อน และแพร่กระจายเข้ามาสู่ประเทศไทยโดยชาวมุสลิมที่อพยพมาจากเอเชียใต้ พร้อมปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้ากับคนไทย
- วิธีทำโรตีโฮมเมด เริ่มจากการผสมแป้งอเนกประสงค์กับเนย ไข่ไก่ และน้ำ จากนั้นนวดให้เนียน พักแป้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง แผ่เป็นแผ่นบาง และทอดจนกรอบทั้งสองด้าน
- เคล็ดลับความสำเร็จ คือการนวดแป้งให้เนียนจริงๆ พักแป้งให้นานพอ แผ่แป้งให้บาง และทอดด้วยไฟกลางเพื่อความกรอบและหอมที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อพูดถึงขนมขบเคี่ยวที่คนไทยคุ้นเคยและชื่นชอบกันมาอย่างยาวนาน หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น โรตี ขนมแป้งชนิดพิเศษที่มีต้นกำเนิดจากเอเชียใต้และแพร่หลายมาสู่ประเทศไทยจนกลายเป็นอาหารว่างยอดนิยมที่พบเห็นได้ตามรถเข็นริมทางเท้า ตลาดนัด และร้านอาหาร โดยเฉพาะในรูปแบบที่คนไทยคุ้นเคยดี นั่นคือโรตีหวานที่ราดด้วยนมข้นหวานและโรยน้ำตาลทราย หรือโรตีไส้กล้วยที่กินแล้วเคี้ยวแล้วติดใจ
แม้ว่าโรตีจะดูเป็นขนมธรรมดาที่ทำง่าย แต่เบื้องหลังความอร่อยนั้นมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและเทคนิคการทำที่ต้องใช้ความชำนาญ บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจที่มาของโรตี ตั้งแต่ต้นกำเนิดในอินเดียไปจนถึงการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรสนิยมคนไทย พร้อมทั้งเปิดเผยวิธีการทำโรตีที่บ้านแบบละเอียด เพื่อให้ทุกคนสามารถทำขนมอร่อยชิ้นนี้ได้ด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยากรู้จักโรตีให้มากขึ้น หรือกำลังมองหาวิธีทำโรตีที่บ้านเพื่อความสะอาดและปลอดภัย บทความนี้จะตอบโจทย์ทุกคำถามของคุณอย่างครบถ้วน
โรตี คืออะไร
โรตี หรือที่บางคนเรียกว่า “โรตีมาเรียม” “โรตีปราตา” เป็นอาหารประเภทขนมปังแบนที่ทำจากแป้งสาลี ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ คำว่า “โรตี” ในภาษาฮินดี อุรดู และภาษาท้องถิ่นอื่นๆ ในเอเชียใต้ หมายถึง “ขนมปัง” หรือ “ผลิตภัณฑ์จากแป้ง” โดยทั่วไป
ในบริบทของประเทศไทย โรตีหมายถึงแป้งชนิดที่เรียกว่า “ไมทาปราฐา” (Murtabak) ซึ่งคล้ายกับโรตีจาไน (Roti Canai) ในมาเลเซีย โรตีปราตา (Roti Prata) ในสิงคโปร์ และโรตีมาเรียมในอินโดนีเซีย ลักษณะเด่นของโรตีคือเนื้อแป้งที่มีชั้นบางๆ หลายชั้น เมื่อทอดจะได้ความกรอบนอกแต่นุ่มใน มีกลิ่นหอมของเนยหรือน้ำมัน
ประเภทของโรตีมีหลากหลาย ตั้งแต่จาปาตี (Chapati) ที่เป็นแป้งแบนบางไม่ใส่ยีสต์ ไปจนถึงนาน (Naan) ที่มีการใส่ยีสต์ให้ขึ้นฟูและนำไปอบในโอ่งไฟร้อนจัด ในประเทศไทย โรตีที่เราคุ้นเคยมักเป็นแบบทอดบนกระทะแบน มีการพับและม้วนเป็นท่อนยาว และเสิร์ฟพร้อมหน้าหวานหรือคาวตามความชอบ
สิ่งที่ทำให้โรตีในไทยแตกต่างจากต้นตำรับคือการปรับเปลี่ยนรสชาติให้เหมาะกับคนไทย แทนที่จะรับประทานคู่กับแกงที่มีเครื่องเทศรุนแรงอย่างในอินเดีย คนไทยนิยมโรตีรสหวานที่ราดนมข้นหวาน โรยน้ำตาลทราย หรือใส่ไข่ไก่และกล้วยหอมลงไปขณะทอด ทำให้กลายเป็นขนมไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาตัวและเป็นที่นิยมในหมู่คนทุกวัย
โรตียังเป็นอาหารที่สะดวกและหาซื้อง่าย พบเห็นได้ตามรถเข็นขายของหวาน ตลาดนัด และร้านอาหาร โดยผู้ขายส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายเอเชียใต้ที่สืบทอดวิธีการทำโรตีมาจากบรรพบุรุษ ทำให้ได้รสชาติต้นตำรับที่แท้จริง

ประวัติและที่มาของโรตี
ประวัติของโรตี เริ่มต้นขึ้นในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดียตอนใต้ ในช่วงยุคที่ชาวอินเดียทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เมื่อหลายพันปีก่อน ชาวบ้านเริ่มปลูกข้าวสาลีและธัญพืชต่างๆ เพื่อนำมาบดละเอียดและผสมกับน้ำ จากนั้นจึงนวดเป็นแป้งและทำให้สุกบนกระทะแบนหรือในโอ่งไฟ กลายเป็นอาหารหลักที่รับประทานคู่กับแกงหรือกับข้าวต่างๆ
คำว่า “โรตี” หรือ “จาปาตี” ถูกพบเจอครั้งแรกในอินเดียตอนใต้ ซึ่งในสมัยนั้นชาวบ้านยังไม่มีพืชผลที่หลากหลายมากนัก จึงหันมาใช้ข้าวฟ่างและธัญพืชที่มีอยู่มาผสมกันจนได้แป้งที่มีรสชาติดีกว่าพืชผลอื่นๆ ที่ปลูกเอง ต่อมาเมื่อมีการค้นพบและปลูกข้าวสาลีมากขึ้น โรตีก็พัฒนาไปเป็นรูปแบบต่างๆ ตามภูมิภาคและวัฒนธรรมท้องถิ่น
การแพร่กระจายของโรตีไปยังภูมิภาคต่างๆ เกิดขึ้นผ่านเส้นทางการค้าและการอพยพของผู้คน ในแอฟริกาตะวันออกเช่น เคนยา ยูกันดา และแทนซาเนีย จะพบจาปาตีที่คล้ายกับโรตีอินเดีย ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรตีเข้ามาพร้อมกับแรงงานที่อพยพจากอินเดียและปากีสถานในสมัยอาณานิคมของอังกฤษ
ในประเทศไทย โรตีเข้ามาโดยชาวมุสลิมที่อพยพมาจากเอเชียใต้ โดยเฉพาะในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คนกลุ่มนี้ซึ่งคนไทยเรียกว่า “แขก” นำเอาวัฒนธรรมการกินโรตีเข้ามาและเริ่มขายตามตลาดและถนน ในช่วงแรกโรตีในไทยยังคงรูปแบบดั้งเดิมที่รับประทานกับแกง แต่ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับรสนิยมคนไทยที่ชอบรสหวาน
การปรับเปลี่ยนที่สำคัญคือการเพิ่มหน้าหวานต่างๆ เช่น นมข้นหวาน น้ำตาลทราย ไข่ไก่ และกล้วยหอม ทำให้โรตีในไทยกลายเป็นขนมหวานมากกว่าอาหารคาว แม้จะยังมีโรตีจิ้มแกงขายอยู่ในชุมชนมุสลิมและภาคใต้ที่รับประทานคู่กับแกงไก่หรือแกงมัสมั่น แต่โรตีหวานกลับเป็นที่นิยมมากกว่าในหมู่คนไทยทั่วไป
ปัจจุบันโรตีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารไทย โดยมีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โรตีช็อกโกแลต โรตีชีส โรตีทิชชู่ และโรตีสายไหม ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโรตีกับขนมไทยอย่างฝอยทอง สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัวของอาหารข้ามวัฒนธรรม
วิธีทำโรตีแบบโฮมเมด
การทำโรตีที่บ้านไม่ได้ยากอย่างที่คิด แม้จะต้องใช้เวลาและความอดทนในการฝึกฝนเทคนิคบางอย่าง แต่เมื่อเข้าใจหลักการแล้วก็สามารถทำโรตีกรอบนอกนุ่มในที่อร่อยได้เหมือนอาบัง ขั้นตอนการทำโรตีโฮมเมดมีดังนี้
ส่วนผสมสำหรับทำโรตี (4-5 แผ่น)
- แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
- เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ (ละลาย)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง (ปรับตามความเหมาะสม)
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ½ ช้อนชา
- นมข้นหวาน สำหรับทาเพิ่มขณะทอด (ถ้าต้องการ)
วิธีทำโรตีแบบละเอียด
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมส่วนผสม
เริ่มจากการผสมส่วนของเหลวก่อน โดยตีไข่ไก่ให้แตก จากนั้นเติมเนยละลาย น้ำตาลทราย และเกลือลงไป ผสมให้เข้ากันดี จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไปทีละน้อยจนได้ส่วนผสมที่ลื่นไหลพอดี
ขั้นตอนที่ 2: ผสมแป้ง
ตักแป้งอเนกประสงค์ใส่ลงในอ่างผสม ทำหลุมตรงกลาง จากนั้นเทส่วนผสมของเหลวที่เตรียมไว้ลงไปในหลุมแป้ง ใช้มือหรือช้อนคนส่วนผสมเข้าหากันอย่างช้าๆ จากตรงกลางไปข้างนอก จนได้แป้งที่เริ่มเป็นก้อน
ขั้นตอนที่ 3: นวดแป้ง
นำแป้งออกมาวางบนโต๊ะที่โรยแป้งไว้เล็กน้อย จากนั้นเริ่มนวดแป้งด้วยฝ่ามือให้เนียนนุ่ม ในระหว่างนวดอาจต้องโรยแป้งเพิ่มเติมถ้าแป้งยังติดมือ นวดต่อไปประมาณ 5-10 นาที จนกว่าแป้งจะไม่ติดมือและมีเนื้อเรียบเนียน
ขั้นตอนที่ 4: พักแป้ง
หลังจากนวดแป้งเสร็จแล้ว ให้นำแป้งใส่ในอ่างและคลุมด้วยผ้าสะอาดหรือพลาสติกแรป พักแป้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นถ้ามีเวลา การพักแป้งจะช่วยให้เนื้อแป้งมีความยืดหยุ่นและง่ายต่อการแผ่เป็นแผ่นบาง
ขั้นตอนที่ 5: แบ่งและแผ่แป้ง
เมื่อพักแป้งครบเวลาแล้ว นำออกมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ ประมาณ 4-5 ก้อน คลึงแต่ละก้อนให้กลม จากนั้นใช้ไม้นวดแป้งหรือมือแผ่แป้งให้เป็นแผ่นบางๆ สามารถใช้เทคนิคการยืดแป้งด้วยมือให้บางเหมือนกระดาษได้ถ้าต้องการความกรอบมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 6: ทาเนยและพับแป้ง
ทาเนยสดหรือนมข้นหวานบนแผ่นแป้งที่แผ่แล้ว จากนั้นพับแป้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือม้วนเป็นท่อนยาวตามชอบ การพับแป้งหลายชั้นจะทำให้โรตีมีเนื้อเป็นชั้นและกรอบมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 7: ทอดโรตี
ตั้งกระทะให้ร้อนและใส่เนยหรือน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย วางแผ่นโรตีลงบนกระทะ ทอดด้วยไฟกลางจนด้านล่างเริ่มเป็นสีเหลืองทอง จากนั้นพลิกอีกด้านและทอดจนสุกทั่วทั้งสองด้าน ถ้าต้องการความกรอบมากขึ้นสามารถกดหรือตีแป้งเบาๆ ขณะทอดเพื่อให้แป้งฟูและกรอบ
ขั้นตอนที่ 8: เสิร์ฟ
เมื่อทอดเสร็จแล้วนำโรตีออกจากกระทะ ถ้าต้องการทำโรตีหวานสามารถราดนมข้นหวานและโรยน้ำตาลทรายได้เลย หรือจะใส่ไข่ไก่และกล้วยหอมลงไปขณะทอดก็ได้ ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ และเสิร์ฟพร้อมทานทันทีขณะร้อนๆ
เคล็ดลับการทำโรตีให้อร่อย
- ใช้แป้งที่มีคุณภาพดีและนวดให้เนียนจริงๆ เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่ดี
- พักแป้งให้นานพอเพื่อให้แป้งมีความยืดหยุ่น
- อย่าใจร้อนในการแผ่แป้ง ยิ่งแผ่บางเท่าไหร่ยิ่งกรอบมากขึ้น
- ทอดด้วยไฟกลาง ไฟแรงเกินไปจะทำให้ไหม้ง่าย
- ทาเนยหรือน้ำมันให้เพียงพอเพื่อความหอมและกรอบ
การทำโรตีที่บ้านนอกจากจะได้ความสะอาดและปลอดภัยแล้ว ยังสามารถปรับรสชาติและท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ ทำให้เป็นขนมหวานที่ทั้งอร่อยและประหยัด เหมาะสำหรับทำเป็นของว่างหรือขายเป็นอาชีพเสริมได้เลย
ทิ้งท้าย
โรตีเป็นอาหารที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เริ่มต้นจากภูมิภาคเอเชียใต้และแพร่กระจายไปทั่วโลกจนกลายเป็นอาหารที่หลากหลายรูปแบบตามวัฒนธรรมแต่ละแห่ง ในประเทศไทย โรตีได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรสนิยมคนไทยจนกลายเป็นขนมหวานยอดนิยมที่พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโรตีหวานราดนมข้นหวาน โรตีกล้วย หรือโรตีช็อกโกแลต
การทำโรตีที่บ้านเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมคุณภาพและความสะอาดของอาหาร แม้จะต้องใช้เวลาและความพยายามในการฝึกฝนเทคนิค แต่เมื่อเข้าใจหลักการและขั้นตอนแล้วก็สามารถทำโรตีที่อร่อยไม่แพ้ร้านขายได้ ทั้งยังสามารถสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ตามความชอบได้อีกด้วย
หากต้องการลองทำโรตีที่บ้าน อย่าลืมใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ นวดแป้งให้เนียน พักแป้งให้นานพอ และทอดด้วยไฟกลางเพื่อความกรอบและหอม คุณจะได้โรตีแสนอร่อยที่ทำด้วยมือตัวเองและสามารถภูมิใจเสิร์ฟให้คนที่คุณรักได้ ลองทำตามสูตรที่แนะนำไปในบทความนี้ แล้วคุณจะพบว่าการทำโรตีไม่ได้ยากอย่างที่คิด!






